การทำงานของช่าง เป็นงานที่ทำงานกับอุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่างๆที่ต้องพบกับสิ่งสกปรกหลายๆอย่างๆ ทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่มักเจอปัญหาจากรอยเปื้อน หรือคราบสิ่งสกปรกอยู่เสมอ ต่อไปเป็นเคล็ดลับการซักเสื้อช่างที่มีคราบสกปรกจากคราบน้ำมันและสิ่งสกปรกออกจากเสื้อช่าง ด้วยของที่อยู่รอบๆตัว
เคล็ดลับต่างๆเหล่านี้จะสามารถช่วยได้อย่างแน่นอน แต่ผลลัพธ์และประสิทธิภาพของการซักเสื้อช่างอาจขึ้นอยู่กับตัวแปรอื่นๆด้วย เช่น น้ำ เครื่องซักผ้าและคราบสกปรก
1.น้ำยาล้างจาน แชมพู หรือสบู่ก้อน
เกลี่ยผลิตภัณฑ์ล้างจาน(แชมพู,สบู่)ให้ทั่วบริเวณที่เปื้อนคราบมัน. แล้วถูกับรอยจนเกิดเป็นฟอง หรือขูดสบู่เป็นฝอยแล้วนำฝอยสบู่เหล่านั้นทาลงบนรอยเปื้อนหลังจากแช่น้ำให้เปียกแล้ว หรือหากใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีสี ต้องไม่ลืมที่จะนำไปผสมน้ำเพื่อเจือจางเสียก่อน เพราะหากใช้กับเนื้อผ้าโดยตรง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจกัดทำลายสีของเสื้อผ้าได้ สำหรับคราบมันที่หลุดออกยากให้ใช้แปรงสีฟันเก่าๆมาช่วยถู ถูฟองจากน้ำยาล้างจาน(แชมพู,สบู่)ลงบนคราบมัน. จากนั้นล้างผลิตภัณฑ์ล้างจานออกโดยใช้น้ำสะอาดหรือน้ำส้มสายชูก็ได้. น้ำส้มสายชูเป็นสารทำความสะอาดธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ผสมน้ำสะอาดและน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกันอย่างละครึ่ง แล้วนำผ้าลงแช่ อย่าลืมว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ควรทำการแยกซัก. โดยยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าได้ตามปกติ ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากป้ายการดูแลรักษาเสื้อผ้า
เมื่อทำการซักเรียบร้อยแล้ว นำไปผึ่งลมให้แห้ง เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ควรนำไปอบแห้งด้วยอุณหภูมิที่สูงเพราะอาจทำให้คราบมันที่หลงเหลืออยู่ฝังแน่นยิ่งขึ้นจนไม่สามารถขจัดออกได้อีก สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ได้ซ้ำ ๆ เพื่อขจัดคราบมันที่ฝังแน่นอยู่บนเนื้อผ้า.
2.ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบและน้ำร้อน
ใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบเพื่อขจัดความมันหรือคราบน้ำมัน. วิธีกำจัดคราบนั้นง่ายนิดเดียว เพียงฉีดพ่นผลิตภัณฑ์ขจัดคราบให้ทั่วบริเวณที่เปื้อนแล้วใช้แปรงสีฟันขัดออก ระหว่างนี้ ต้มน้ำหม้อใหญ่ๆ ให้เดือด และก่อนที่จะข้ามไปยังขั้นตอนต่อไป. อย่าลืมให้เวลาผลิตภัณฑ์ขจัดคราบได้ทำงานของมันอย่างเต็มประสิทธิภาพเสียก่อน จากนั้นดับไฟแล้วยกหม้อน้ำร้อนลงจากเตา แล้วเริ่มเทน้ำลงสู่บริเวณที่มีคราบเปื้อน โดยจะต้องไม่ลืมข้อควรปฏิบัติที่สำคัญดังนี้:
ควรนำเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบมันใส่ในอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้าและพยายามเทน้ำร้อนให้สูงห่างจากคราบเปื้อนหรือคราบมันให้มากที่สุด
ปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้กับรอยเปื้อนทั้งหมด. โดยต้องไม่ลืมกลับด้านเพื่อทำความสะอาดเนื้อผ้าทั้ง 2ฝั่งด้วย ขั้นตอนเหล่านี้สามารถทำได้ซ้ำ ๆ หลายครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่าลืมว่าควรซักเสื้อผ้าเหล่านี้แยกจากผ้าอื่น ๆ โดยยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าปกติได้ ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากป้ายการดูแลรักษาเสื้อผ้า
เมื่อทำการซักผ้าเรียบร้อยแล้ว นำไปผึ่งลมให้แห้ง เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ควรนำไปอบแห้งด้วยอุณหภูมิที่สูงเพราะอาจทำให้คราบมันที่หลงเหลืออยู่ฝังแน่นยิ่งขึ้นจนไม่สามารถขจัดออกได้
3.แป้งเด็ก
ใช้กระดาษชำระซับคราบมันออกจากเสื้อผ้าให้ได้มากที่สุดเสียก่อนและโรยแป้งเด็กให้ทั่วบริเวณที่มีคราบเปื้อน แต่ถ้าหากไม่มีจริง ๆ ลองใช้ของใกล้ตัวอื่น ๆที่มีคุณสมบัติซึมซับความมันได้ดีเช่นเดียวกัน แป้งข้าวโพด เกลือ ใช้ช้อนหรือกระดาษชำระค่อยๆ ปัดแป้งออกจนหมด. โดยต้องระวังไม่ให้ฝุ่นแป้งเลอะบริเวณอื่น ๆ ของเสื้อผ้าด้วย จากนั้น ผสมผลิตภัณฑ์ล้างจานและน้ำเข้าด้วยกัน แล้วแตะขึ้นมาที่ปลายนิ้วเล็กน้อย. ก่อนจะนำมาถูในบริเวณที่เปื้อนคราบมันจนเริ่มเกิดฟอง จากนั้นใช้แปรงสีฟันเก่าๆ มาถูต่อ โดยให้ถูวนเป็นวงกลมจนทั่ว เพื่อขจัดความมันให้สิ้นคราบ เสื้อผ้าเหล่านี้ควรซักแยกกับผ้าอื่น ๆ. โดยสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าได้ตามปกติ ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากป้ายการดูแลรักษาเสื้อผ้าอย่างเคร่งครัด
เมื่อทำการซักเรียบร้อยแล้ว นำไปผึ่งลมให้แห้ง เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ควรนำไปอบแห้งด้วยอุณหภูมิที่สูงเพราะอาจทำให้คราบมันที่หลงเหลืออยู่ฝังแน่นจนเอาไม่สามารถขจัดออกได้อีก
